จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้สำหรับ เครื่องสำอางสำหรับแก้ม ที่จะช่วยเติมสีสันให้แก้มดูสดใส มีสุขภาพดี ที่เรียกกันว่า บรัชออน
บลัชออน (Blush on)
เครื่องสำอางสำหรับแก้ม ที่ขาดไม่ได้ในการแต่งหน้า ใช้เพื่อเติมสีของแก้ม ให้มีสีตามต้องการ ใช้สำหรับปัดบนแก้ม ทำให้ใบหน้าดูมีเลือดฝาด สุขภาพดี มีหลากหลายมีโทนสีให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมและความต้องการ เฉดสีที่เป็นที่นิยม คือ ส้ม ชมพู แดง

นอกจากนี้ บลัชออน (Blush on) ยังนำมาใช้เพื่อช่วยขับผิวให้ดูเปล่งปลั่ง สดใส ดูใบหน้าอ่อนกว่าวัย และยังสามารถปรับโครงหน้าให้ดูเรียว คมชัด ได้อีกด้วย ซึ่งในความเป็นจริง ในวงการจะเรียกว่า บลัชเชอร์ ซึ่งมาจากคำในภาษาอังกฤษที่ว่า Blush ที่แปลว่า เขินจนหน้าแดง แต่สำหรับคนไทยจะเรียกติดปากกันว่า บลัชออน เกิดจากการนำผงสีมาผสมกับกรดไขมันจากผักผลไม้ หรือจากสัตว์ แล้วผสมผงแป้งลงไป ทำให้มีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ใช้สำหรับทาได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีสารต่าง ๆประกอบด้วย ซึ่งจะช่วยให้สีดูโดดเด่น เช่น ไททาเนียมออกไซด์ ไมกา ซิงก์ออกไซด์ ซึ่งตัวผงสีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ว่าปลอดภัย มีเกือบ 100 สี ทำให้มีเฉดสีให้เลือกมากมาย

1.บลัชออนแบบฝุ่น (Powder Blush)
เป็น เครื่องสำอางสำหรับแก้ม ได้รับความนิยมมาก เพราะใช้งานง่าย มีสีให้เลือกมากมาย ทั้งนี้ยังมีการแบ่งลักษณะตามเนื้อของ บลัชออน แบบชิมเมอร์ แบบเนื้อแมต วิธีใช้คือใช้แปรงปัดบางๆ บริเวณโหนกแก้มหลังจากการเตรียมผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ไม่ควรปัดจนหนาเกินไป แบบฝุ่นมีข้อเสียคือไม่ติดทนนาน เนื่องจากแบบฝุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน เพราะเป็นประเภทที่มีตัวเนื้อมีสัมผัสแห้ง จึงจะช่วยดักจับความมันบนใบหน้าได้ดี แนะนำให้ปัดหลังจากเสร็จจากขั้นตอนของการทารองพื้นและลงแป้งเรียบร้อยแล้ว และหากปัดมากเกินไป จะทำให้หน้าดูแดง ไม่เป็นธรรมชาติ อาจทำให้ต้องเสียเวลาลงแป้งทับอีกรอบ

2.บลัชออนแบบครีม (Cream Blush)
มีลักษณะเป็นเนื้อเจลกึ่งเหลว มักอยู่ในรูปแบบของตลับ วิธีการใช้คือใช้มือแตะครีมบรัชออนทีละน้อยแล้วนำมาทาลงบนแก้ม แล้วค่อยๆเกลี่ยให้สีเสมอกัน ข้อดีของชนิดนี้คือดูเป็นธรรมชาติ ติดทนนาน และไม่จำเป็นต้องเติมระหว่างวัน แต่ก็มีข้อเสียคือ เกลี่ยสีให้สม่ำเสมอกันได้ยากสำหรับมือใหม่ ส่วนสาวที่มีผิวมันแนะนำให้ใช้เป็นสูตรเนื้อแมต เพราะจะช่วยทำให้ติดทน และเข้ากับสภาพผิวมากที่สุด

3.บลัชออนแบบน้ำ (Water Blush)
มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายน้ำ ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะใช้งานยาก หากเกลี่ยไม่ดีจะทำให้หน้าดูด่าง เป็นจ้ำ ๆ สีไม่สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับมืออาชีพ และผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง จะได้ลุคหน้าฉ่ำ ๆ ผิวโกลว์ หรือผู้ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าสไตล์สาวเกาหลี แนะนำให้ใช้ฟองน้ำมาช่วยในการทา โดยการแตะฟองน้ำกับบรัชออนก่อนนำฟองน้ำมาทาบนแก้มก็จะช่วยให้สีดูเนียนเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

วิธีเลือกสีของบลัชออนให้เข้ากับสีผิว
- ผิวขาว ควรใช้โทนสีอ่อน ชมพูอ่อน, ส้มอมชมพู ,ส้มอ่อนๆ หรือส้มพีช ทำให้ดูแก้มใสๆ สวยแบบธรรมชาติ
- ผิวแทนหรือผิวเข้มกลาง ใช้โทนสีชมพูกับส้ม และสีที่เข้มกว่าคนผิวขาวได้อีกหนึ่งเฉด เช่น ชมพูอมม่วง ชมพูบานเย็น
- ผิวเข้ม ควรใช้โทนสีสว่าง เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีส้มอิฐ สีแดงเลือดหมู เพื่อขับผิวให้โดดเด่น ดูเปล่งปลั่ง สดใส

วิธีปัดบลัชออนให้เข้ากับรูปหน้า
- ใบหน้ารูปไข่ ให้ปัดเหนือโหนกแก้ม เริ่มจากกึ่งกลางข้างจมูก เฉียงขึ้นไปจนถึงระดับเดียวกับหางตา
- ใบหน้ากลม ให้ปัดเหนือโหนกแก้ม ให้ปัดเป็นแนวเฉียง เริ่มจากข้างไรผม ไล่ลงมาจนถึงกลางใบหน้า จะช่วยให้หน้าดูเรียวลง
- ใบหน้าเหลี่ยม ให้ปัดตรงกับโหนกแก้มเลย เสร็จแล้วสามารถใช้บรอนเซอร์มาคอนทัวร์ตรงกรอบหน้าจะทำให้ดูเรียวมน
- รูปหน้ายาว ควรปัดแนวขวางบนใบหน้า เริ่มปัดในระดับเดียวกับปลายจมูก ยาวไปจนเกือบถึงใบหู ให้เป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยมคว่ำ จะทำให้หน้าดูสั้นลง สมส่วนมากขึ้น
- รูปหน้าสั้น ให้ปัดเป็นแนวเฉียง ตั้งแต่ใต้ปลายจมูกเฉียงขึ้นไปจนถึงบริเวณขมับ เทคนิคคือปัดเป็นเส้นโค้ง หลบพวงแก้มตรงกลางใบหน้า การปัด บรัชออน แบบนี้เพื่อช่วยปรับให้รูปหน้าเรียวยาวขึ้น ไม่ให้หน้าดูแบน ด้วยเหตุนี้ การใช้บรัชออน จึงเป็นหนึ่งใน เครื่องสำอางสำหรับแก้ม ที่ขาดไม่ได้